การดึงหน้า face lift surgery

การดึงหน้า (Face Lift) คืออะไร เหมาะกับใคร? มีกี่วิธี? ราคาเท่าไหร่?

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวพรรณของเราก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน การดึงหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่ง การดึงหน้า หรือ Face Lift คือการผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าและลำคอ เพื่อลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์และสดใสอีกครั้ง แล้วการดึงหน้าคืออะไร? เหมาะกับใคร? มีกี่วิธี? ราคาเท่าไหร่? มาติดตามได้ในบทความนี้

ดึงหน้า (Face Lift) คืออะไร

การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift surgery) คือการทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนังให้กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม และตัดผิวหนังส่วนเกินเพื่อให้ใบหน้ากระชับและเรียบเนียนขึ้น การศัลยกรรมดึงหน้าจะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ดูเป็นธรรมชาติ โดยจะช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของใบหน้า ด้วยเทคนิคการผ่าตัดในปัจจุบันที่ทันสมัย ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวไวและอยู่ได้นาน

ดึงหน้า ทำส่วนไหนได้บ้าง

ดึงหน้า จุดไหนได้บ้าง

การศัลยกรรมดึงหน้าเป็นวิธีการที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยบนใบหน้า โดยสามารถปรับปรุงลักษณะของผิวในส่วนต่าง ๆ ได้ดังนี้

  • ดึงหน้าผาก (Forehead Lift) ช่วยลดรอยย่นบนหน้าผาก ลดปัญหาคิ้วต่ำ หรือหางตาตก ที่อาจบดบังการมองเห็น ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น และดวงตาดูสดใสขึ้น
  • ดึงใบหน้าส่วนบน (Upper Facelift) ช่วยยกกระชับโหนกแก้มที่หย่อนคล้อย ลดรอยตีนกา และริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณขมับและรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณนี้ดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ดึงใบหน้าส่วนล่าง (Lower Facelift) ช่วยลดร่องแก้มที่ลึก ร่องน้ำหมาก และปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับได้สัดส่วนมากขึ้น
  • ดึงคอ (Neck Lift) ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณลำคอ ลดเหนียง ทำให้ลำคอดูกระชับและเข้ารูปกับใบหน้ามากขึ้น

ดึงหน้า เหมาะกับใครบ้าง

การดึงหน้า เหมาะกับใคร

การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) เป็นหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้ามีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยตามวัย หรือจากการลดน้ำหนัก ผิวหนังบริเวณแก้ม คาง และลำคอหย่อนยาน มีริ้วรอยร่องลึก
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้า ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลง
  • ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัดและการฟื้นตัว เช่น โรคเลือด โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
  • ผู้ที่มีสุขภาพจิตดี ผู้ที่มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการผ่าตัด มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล และไม่มีปัญหาทางจิตเวช
  • ผู้ที่ไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัด
  • ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่อาจส่งผลต่อการหายของแผล และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
  • ผู้ที่เข้าใจถึงความเสี่ยงและผลลัพธ์ ผู้ที่เข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด และมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลต่อผลลัพธ์

ดึงหน้า ไม่เหมาะกับใคร 

ดึงหน้าไม่เหมาะกับใคร

การศัลยกรรมดึงหน้า ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และยกกระชับขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสมจะทำศัลยกรรมนี้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ไม่เหมาะกับการดึงหน้า ได้แก่

  • ผู้ที่มีอายุน้อยเกินไป การดึงหน้ามักเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามวัย สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่านั้น อาจมีวิธีอื่นที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าในการผ่าตัดและอาจไม่เหมาะกับการดึงหน้า
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงบ่อย การมีน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ อาจทำให้ผลลัพธ์ของการดึงหน้าไม่คงที่และผิวกลับมาหย่อนคล้อยได้อีก

ความหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร

ความหย่อนคล้อยของใบหน้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือการดูแลผิวพรรณที่ไม่เหมาะสม การทำความเข้าใจถึงลักษณะของความหย่อนคล้อยในแต่ละบริเวณบนใบหน้า จะช่วยให้คุณสามารถประเมินสภาพผิวของตนเองก่อนตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรมดึงหน้าได้อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปแล้ว ความหย่อนคล้อยสามารถสังเกตได้จากบริเวณต่าง ๆ ดังนี้ 

  • บริเวณหน้าผากและคิ้วจะเริ่มมีริ้วรอยและหย่อนคล้อยลงมา 
  • บริเวณรอบดวงตาและหางตาก็หย่อนคล้อยจนอาจบดบังการมองเห็น 
  • บริเวณแก้มจะหย่อนคล้อยลงมาจนเกิดเป็นร่องแก้มที่ลึกขึ้น ผิวหน้าไม่เต่งตึงเหมือนเดิม 
  • บริเวณลำคอเริ่มมีเหนียงและผิวที่หย่อนคล้อยลงมา ทำให้กรอบหน้าไม่ชัดเจน
  • บริเวณมุมปากมีริ้วรอย หรือมุมปากที่คว่ำลง ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง 

การสังเกตความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัญหาผิวที่เกิดขึ้น และสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคดึงหน้า (Face Lift) มีกี่แบบ

ดึงหน้า มีเทคนิคอะไรบ้าง มีกี่แบบ

การดึงหน้ามีเทคนิคที่ได้รับความนิยม 2 แบบ คือ

  1. การดึงหน้าเอนโดไทน์ (Endotine) เทคนิคนี้ใช้ตัวยึดที่เรียกว่าเอนโดไทน์ในการดึงผิวหน้าให้ตึงกระชับ โดยเอนโดไทน์มี 4 อย่าง ได้แก่
  • Endotine Forehead ใช้สำหรับดึงหน้าผาก
  • Endotine TransBleph ใช้สำหรับดึงบริเวณใต้ตา
  • Endotine Midface ใช้สำหรับดึงแก้ม
  • Endotine Ribbon ใช้สำหรับดึงบริเวณคอ
  1. การดึงหน้าส่องกล้อง (Endoscopic lift) เทคนิคนี้เป็นการผ่าตัดโดยใช้กล้องขนาดเล็กส่องเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อดึงชั้นผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับ วิธีนี้มีแผลเล็ก พักฟื้นน้อย และสามารถใช้ร่วมกับเอนโดไทน์ได้

ทั้งนี้ การเลือกเทคนิคการดึงหน้าจะขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ

ซ่อนแผลผ่าตัดดึงหน้าตรงไหน

ตำแหน่งของแผลผ่าตัดในการศัลยกรรมดึงหน้าจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการผ่าตัด โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะพยายามซ่อนรอยแผลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมี 3 ตำแหน่ง ได้แก่

  • ดึงหน้าส่วนบน แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณไรผมด้านหน้าผาก ทำให้มองเห็นได้ยาก และสามารถใช้ผมช่วยบดบังได้
  • ดึงหน้าส่วนกลาง แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณหน้าหู โดยจะโค้งไปตามแนวกึ่งกลางของหู ทำให้กลมกลืนกับใบหู
  • ดึงหน้าส่วนล่าง แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณหน้าหูไปจนถึงหลังใบหู ทำให้สังเกตเห็นได้ยาก

ผู้หญิง VS. ผู้ชาย ดึงหน้ามีความต่างกันหรือไม่

การดึงหน้าในผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน เนื่องจากโครงสร้างใบหน้าและลักษณะทางกายวิภาคของทั้งสองเพศมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

  • โครงสร้างใบหน้า ผู้ชายมักมีโครงสร้างใบหน้าที่แข็งแรงและมีมิติมากกว่าผู้หญิง มีโหนกแก้มที่เด่นชัด กรามที่แข็งแรง และคางที่กว้าง ในขณะที่ผู้หญิงมักมีใบหน้าที่โค้งมนและอ่อนโยนกว่า
  • ลักษณะผิว ผิวของผู้ชายมักจะหนากว่าและมีต่อมไขมันมากกว่าผู้หญิง ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีริ้วรอยลึกและเห็นได้ชัดกว่า
  • ความต้องการและเป้าหมาย ผู้หญิงส่วนใหญ่มักต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ในขณะที่ผู้ชายอาจต้องการให้ใบหน้าดูคมเข้มและมีสง่าราศีมากขึ้น

ข้อดี-ข้อเสียของการดึงหน้า

การดึงหน้าเป็นหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้ แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำ

  • ข้อดีของการดึงหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
  • ข้อเสียของการดึงหน้า การผ่าตัดใด ๆ ก็มีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือผลข้างเคียงจากยาชา ต้องใช้เวลาพักฟื้น และอาจมีรอยแผลเป็น ซึ่งการดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ศัลยกรรมดึงหน้า ราคาเท่าไหร่

ราคาของการศัลยกรรมดึงหน้ามีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด, สถานพยาบาลที่เลือก, และความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยทั่วไปแล้ว ราคาของการดึงหน้าจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักแสนบาท

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

เพื่อให้การผ่าตัดดึงหน้าเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด ดังนี้

6 เดือนก่อนการผ่าตัด

  • งดยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ (Isotretinoin)
  • งดการทำ Botox และ Filler บริเวณใบหน้า

3 เดือนก่อนการผ่าตัด

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ 
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสำหรับการผ่าตัด
  • ตรวจสุขภาพเพื่อประเมินสภาพร่างกาย และหากมีโรคประจำตัว ควรพบแพทย์เพื่อรักษาและควบคุมอาการให้อยู่ในภาวะปกติ
  • งดการทำ Laser และร้อยไหมบริเวณใบหน้า

4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด

  • งดสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้แผลหายช้า หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • งดการเจาะ/สักร่างกาย หรืออาบแดด
  • หลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน

10 วันก่อนการผ่าตัด

  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  1. ยาละลายลิ่มเลือด เช่น Aspirin, Coumadin, Ticlid, Plavix หรือ Aggrenox (ปรึกษาแพทย์ประจำตัวถึงความปลอดภัยในการหยุดยา)
  2. ยาแก้ปวดประเภท NSAIDs เช่น Ibuprofen, Advil, Motrin, Nuprin, Aleve, Relafen, Naprosyn, Diclofenac, Naproxen, Voltaren, Daypro, Feldene, Clinoril, Lodine, Indocin, Orudis เป็นต้น
  3. ยาระงับประสาทและยานอนหลับบางชนิด เช่น Zoloft, Lexapro, Prozac, Pristiq เป็นต้น
  • งดวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด ที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Multivitamins, Fish oil, Omega3, Co-enzyme Q10, Evening Primrose Oil, Glucosamine, Arnica, Ginseng, Gingko, herbs เป็นต้น

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

การฟื้นตัวหลังการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการดูแลตนเอง เพื่อให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

ระยะฟื้นตัว

  • ช่วง 1-2 วันแรก สามารถลุกเดินได้ภายในวันแรกหลังผ่าตัด และสระผมได้ในวันที่ 2 หลังผ่าตัด แต่ควรใส่ผ้ารัดศีรษะ (Facial Band) ตลอดเวลา
  • ช่วง 1 สัปดาห์แรก ควรยกศีรษะสูงขณะนอนหลับ (หนุนหมอน 2-3 ใบ) เพื่อลดอาการบวม
  • ช่วง 2 สัปดาห์ ควรลางานเพื่อพักฟื้น และสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
  • ช่วง 4 สัปดาห์ ควรงดออกกำลังกาย
  • ช่วง 1-3 เดือน อาการบวมช้ำอาจอยู่ได้นาน 1-3 สัปดาห์ โดยใบหน้าจะดูบวมมากในช่วง 3-5 วันแรก และแผลผ่าตัดมักจะแดงและนูนเล็กน้อยในช่วง 1-3 เดือนแรก และจะจางลงในเวลา 6-12 เดือน
  • ช่วง 3-6 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง

ข้อควรปฏิบัติ

  • การดูแลแผลผ่าตัด ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • การประคบเย็น ประคบเย็นบริเวณใบหน้าในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมและช้ำ
  • การรับประทานยา รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน
  • การพักผ่อน พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก
  • การติดตามอาการ พบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการและประเมินผลการรักษา

ข้อควรหลีกเลี่ยง

  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยตรง โดยเฉพาะบริเวณแผลผ่าตัด
  • งดแต่งหน้าในช่วงแรกหลังผ่าตัด

ดึงหน้าที่ไหนดี? ทำที่ WANSIRI ดีอย่างไร

ดึงหน้าโรงพยาบาลที่ไหนดี

การตัดสินใจว่าจะทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ไหนนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ควรพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชื่อเสียงของสถานพยาบาล ประสบการณ์ของแพทย์ เทคโนโลยีที่ใช้ และความพึงพอใจของลูกค้าเก่า ที่ WANSIRI เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทำศัลยกรรมดึงหน้า มาดูข้อดีของการทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ WANSIRI ดังนี้

  • ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ WANSIRI มีทีมศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมดึงหน้าโดยเฉพาะ
  • เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทางโรงพยาบาลใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยในการผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
  • มาตรฐานความปลอดภัย WANSIRI มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง มีห้องผ่าตัดที่สะอาดและได้มาตรฐาน รวมถึงทีมวิสัญญีแพทย์ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
  • การบริการที่ดี ทางโรงพยาบาลให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า มีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลตลอดการรักษา
  • รีวิวจากลูกค้า: มีรีวิวจากลูกค้าที่เคยทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ WANSIRI ซึ่งส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้

ทีมศัลยแพทย์ของ WANSIRI

ผ่าตัดดึงหน้ากับ wansiri

WANSIRI มีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการยกกระชับใบหน้า ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมดึงหน้าหลากหลายเทคนิค เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและตรงความต้องการของแต่ละบุคคล นำทีมโดย

  • นายแพทย์ฉัตรพงษ์ ศาสตรสาธิต: ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการยกกระชับใบหน้า อีกหนึ่งท่านที่ร่วมทีม
  • นายแพทย์วิทูร วิสุทธิ์เสรีวงศ์: ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดึงหน้า และได้รับการรับรองจากแพทยสภา

ที่ WANSIRI ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก โดยมีมาตรฐานการบริการที่สูง อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และห้องผ่าตัดที่สะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อให้ผู้ป่วยมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

รีวิวการดึงหน้า (Face Lift)

[รูปรีวิวก่อน-หลัง]

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

หลังผ่าตัดดึงหน้า มีการติดตามผลอย่างไรบ้าง?

แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาติดตามผลหลังผ่าตัดภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อตัดไหมและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ทันที

ดึงหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้าจะอยู่ได้นาน 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้าจะกลับมาหย่อนคล้อยตามธรรมชาติ

อาการบวมช้ำหลังดึงหน้า ปกติไหม?

อาการบวมช้ำหลังการผ่าตัดดึงหน้าเป็นเรื่องปกติ และจะค่อย ๆ หายไปได้เอง การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เช่น การประคบเย็น การนอนยกศีรษะสูง จะช่วยลดอาการบวมได้

เคยดึงหน้ามาแล้ว ทำซ้ำได้ไหม?

สามารถทำซ้ำได้ เนื่องจากผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้าจะอยู่ได้ราว 5-10 ปี เพื่อให้ผลลัพธ์คงที่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์อีกครั้ง

สรุป

การดึงหน้า (Face Lift) เป็นศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของใบหน้าและลำคอ โดยมีเทคนิคหลัก 2 แบบคือ การใช้เอนโดไทน์และการส่องกล้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและมีสุขภาพแข็งแรง การผ่าตัดต้องการการเตรียมตัวที่ดีและการดูแลหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด โดยที่โรงพยาบาล WANSIRI มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมาตรฐานความปลอดภัยสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทำศัลยกรรมดึงหน้า

โรงพยาบาลวรรณสิริ คือโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางด้านความงามในประเทศไทยและเอเชีย ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ผิวพรรณและสุขภาพ เรามุ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสความงามที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง!

หากท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Wansiri ยินดีให้คำปรึกษาฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สอบถามเข้ามาได้ทาง Facebook หรือ Line ได้เลย