เสริมจมูกอย่างไรให้หน้าเปลี่ยน และเหมาะกับเรา

เสริมจมูกครั้งแรก เพิ่มมิติให้เหมาะกับใบหน้า ควรรู้เรื่องอะไรบ้าง

การเสริมจมูก (Rhinoplasty) ถือเป็นศัลยกรรมอันดับแรกๆ ของผู้ที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเลือกทำ เพราะการเสริมจมูกให้โด่งขึ้นจึงทำให้หน้าดูมีมิติขึ้นได้ชัดเจน นอกจากนี้ทรงจมูกที่เข้ากับหน้ายังจะช่วยเพิ่มเสน่ห์และความดึงดูดให้กับเจ้าของอีกด้วย สำหรับใครที่มีแพลนว่าจะทำจมูกในเร็วๆ แต่ไม่รู้จะเลือกจมูกทรงไหน เสริมจมูกด้วยเทคนิคอะไร หรือเสริมจมูกที่ไหนดี บทความนี้จะพามาเจาะลึกสิ่งที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรมจมูก ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมๆกันเลย

ศัลยกรรมการเสริมจมูก
เสริมจมูก Open หมอศรันย์ wansiri
เสริมจมูก Open หมอศรันย์ wansiri
เสริมจมูก Open หมอศรันย์ wansiri
เสริมจมูก Open หมอศรันย์ wansiri

เสริมจมูก คืออะไร ?

การเสริมจมูก (Rhinoplasty) คือ การผ่าตัดตกแต่งแก้ไขรูปทรงจมูกที่ไม่มีมิติให้โด่งขึ้น สวยงามขึ้น ด้วยการเสริมวัสดุซิลิโคนหรือเนื้อเยื่อจากร่างกาย เช่นกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนซี่โครง เนื้อเยื่อก้นกบ เข้าไป เพื่อตกแต่งสันจมูกที่แบน หรือจมูกสั้นให้มีความโด่งเข้ารูปรับกับใบหน้า ซึ่งการเสริมจมูกนอกจากทำเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถแก้ไขจมูกที่ผิดรูปร่าง หรือเสียหายจากอุบัติเหตุ ให้กลับมาเป็นปกติได้อีกด้วย

ทรงจมูกยอดนิยมของคนเอเชียเป็นแบบไหนดี

ทรงจมูกยอดนิยมที่คนเอเชียนิยมทำ

ทรงจมูกที่สวยต้องเป็นจมูกที่มีความโด่ง โค้ง และมีปลายจมูกที่รับกับใบหน้าทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ช่วยเพิ่มความมีมิติให้กับใบหน้า ซึ่งทรงจมูกยอดนิยมของคนเอเชียมีดังนี้

1. จมูกทรงบาร์บี้ไลน์

จมูกทรงบาร์บี้ไลน์ เป็นทรงที่บริเวณสันจมูกจะมีความเรียวยาวเรียบเนียน โดยสันจมูกสโลปลงมาถึงปลายรับกับหน้าผากเป็นรูปตัว S ปลายจมูกมีความงุ้มเล็กน้อย จึงทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ใบหน้าดูหวาน น่ารัก และดูเด็กลง

2. จมูกทรงทริปเปิ้ลบาร์บี้

จมูกทรงทริปเปิ้ลบาร์บี้ จมูกทรงนี้จะไม่เน้นให้บริเวณสันจมูกโด่งมาก แต่จะให้มีความสโลปปลายพุ่ง โดยสันจมูกถึงปลายจมูกมีความสมดุลเป็นธรรมชาติ จมูกไม่แข็ง ไม่โด่งและไม่ใหญ่จนเกินไป ช่วยปรับให้ใบหน้า มีความหวาน ไม่ว่าจะหันถ่ายรูปมุมไหนก็รอด

3. จมูกทรงธรรมชาติ

จมูกทรงธรรมชาติ เป็นจมูกที่มีความโด่งไม่มาก เป็นทรงจมูกที่รับกับฐานจมูกเดิม แต่เสริมให้ปลายจมูกดูยาวขึ้น ปลายจมูกมีหยดน้ำเล็กน้อย ช่วยให้ใบหน้ามีมิติ และแก้ปัญหาจมูกทรงชมพู่ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกน้อยที่ต้องการเสริมจมูกอีกด้วย

4. จมูกทรงเกาหลี

จมูกทรงเกาหลี เป็นทรงจมูกที่บริเวณสันจมูกเรียว สันจมูกไม่โด่งมาก แต่ปลายจมูกมีความมนงุ้มและเชิดเพียงเล็กช่วยให้ใบหน้าละมุนสวยหวานดูเป็นธรรมชาติ ดูเด็ก ดูหวานขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีสันจมูกไม่กว้างมาก

5. จมูกทรงสายฝอ

จมูกทรงสายฝอ เป็นทรงจมูกมีเอกลักษณ์จากความโด่งคม โดยเริ่มตั้งแต่หัวตาสันจมูกถึงปลาย  สันจมูกจะเป็นทรงไม่มีความสโลป ปีกจมูกมีความเรียวเล็ก ปลายจมูกเชิ่ดขึ้นเล็กน้อย ทำให้สามารถเห็นทรงจมูกเป็นสันอย่างชัดเจนทั้งหน้าตรงและหันข้าง 

6. จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง

จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง เป็นทรงจมูกที่มีความสโลปตั้งแต่บริเวณหัวตาลงมาที่สันจมูก และเน้นปลายจมูกเรียวพุ่ง โดยปลายจมูกจะมีความพุ่งเป็นพิเศษ ทำให้จมูกดูเรียวยาวมีความเป็นธรรมชาติ จัดได้ว่าเป็นทรงจมูกยอดฮิตเลยก็ว่าได้

7. จมูกทรงหยดน้ำ

จมูกทรงหยดน้ำ เป็นทรงจมูกที่มีลักษณะเรียว สันจมูกมีความโค้งเล็กน้อย ไม่ตรงจนเกินไป ปลายจมูกเล็กมนกลมคล้ายกับหยดน้ำ มีมุมระหว่างริมฝีปากกับจมูก ประมาณ 90-100 องศา ซึ่งจะช่วยปรับให้ใบหน้ามีความหวานและดูละมุน เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานจมูกยาวพอเหมาะและปลายจมูกมีเนื้อหนาพอสมควร

8. จมูกทรงตั๊กแตน

จมูกทรงตั๊กแตน เป็นทรงที่เหมาะสมกับทุกโครงหน้า โดยสันจมูกมีความโค้งโด่งและไล่ระดับความโค้งลงไปถึงปลายจมูก บริเวณปลายจมูกเรียวเล็ก มีความเชิดขึ้นนิดๆ และปลายจมูกมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการแก้จมูกบ่อยๆ เพราะจมูกทรงตั๊กแตนเป็นทรงจมูกที่ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัยไม่มีเอาท์

9. จมูกทรงปลายเชิด

จมูกทรงปลายเชิด เป็นทรงจมูกที่สันจมูกมีลักษณะเรียบเนียน มีแนวโค้งเป็นธรรมชาติตั้งแต่สันจมูกลงมาถึงปลายจมูก โดยทำมุมระหว่างหน้าผาก กับจมูกประมาณ 120-140 องศา และเน้นช่วงปลายจมูกให้มีความเชิดขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเฉี่ยวมากขึ้น

10. จมูกทรงตุรกี

จมูกทรงตุรกี เป็นทรงจมูกที่สันจมูกโด่งเรียบเนียน สันมีความโค้งไล่ระดับ ปลายเชิดขึ้นเล็กน้อย บริเวณปลายจมูกยาวเรียวโค้งมนไม่แหลม และไม่ดูเฉี่ยวมากจนเกินไป ปีกจมูกมีขนาดเล็กเรียวคล้ายจมูกสายฝอ จึงทำให้ได้ลุคสายฝอที่มีความน่ารักแบบบาร์บี้

เลือกทรงจมูกอย่างไรให้เข้ากับใบหน้า

การเลือกทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า ควรเลือกทรงจมูกรับกับหน้าผาก  โครงหน้า และส่วนอื่นๆ เช่น 

  • คนที่มีใบหน้าเรียว ควรเลือกจมูกทรงสโลปปลายพุ่ง จมูกทรงหยดน้ำ จมูกทรงปลายเชิด จมูกทรงปลายเชิด จมูกทรงเกาหลี จมูกทรงธรรมชาติ 
  • คนที่รูปหน้ากลม ควรเลือกจมูกทรงสันสโลปปลายพุ่งจมูกทรงหยดน้ำ
  • คนรูปหน้าสี่เหลี่ยม ควรเลือกจมูกทรงปลายเชิด 
  • จมูกทรงสายฝอ จมูกทรงตุรกี และจมูกทรงตั๊กแตน เป็นต้น

ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมจมูก

การเสริมจมูก ถือเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ ของรายการศัลยกรรมทั้งหมด เพราะสามารถทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งคนที่เหมาะกับการศัลยกรรมเสริมจมูกมีดังนี้

  1. ผู้ที่ใบหน้าขาดมิติ อยากเพิ่มความมีมิติบนใบหน้า ปรับลุคใบหน้าให้ดูหวานขึ้น
  2. ผู้ที่มีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นวัยที่ใบหน้าและจมูกมีขนาดหรือรูปร่างที่คงที่แล้ว
  3. คนที่ต้องการแก้ปัญหาทรงจมูกไม่ได้สัดส่วน เช่นจมูกบาน ฐานจมูกกว้าง จมูกแบน ดั้งแหมบ จมูกสั้น จมูกหมู จมูกไม่มีหยดน้ำ
  4. คนที่มีปัญหาจมูกฮัมพ์สูงหรือปลายจมูกงุ้ม ทำให้ใบหน้าดูแข็ง หน้าดุ ขาดความละมุน
  5. คนที่จมูกมีความผิดรูปจากอุบัติเหตุ หรือผู้ที่ทรงจมูกมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ต้องการแก้ไขทรงจมูกให้กลับมาปกติ

การเสริมจมูกช่วยได้ทั้งในเรื่องของความสวยงาม เสริมจมูกเพื่อรักษาโรคทางการหายใจ และเสริมจมูกเพื่อแก้ไขโครงสร้างที่ผิดปกติ แต่จะต้องเลือกทำด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง และเลือกทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแบบเฉพาะทางเท่านั้น

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

วัสดุเสริมจมูกมีแบบไหนบ้าง

ในปัจจุบันวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกมีหลายแบบ ซึ่งการเลือกวัสดุศัลยกรรมจมูกเป็นสิ่งสำคัญต่อรูปทรงของจมูกมาก โดยวัสดุที่นิยมใช้ในการเสริมจมูกมากที่สุดมี 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ ซิลิโคนเสริมจมูก และกระดูกอ่อน ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. ซิลิโคนเสริมจมูก

ซิลิโคนเสริมจมูก เป็นวัสดุสารพลาสติกสังเคราะห์ที่ถูกผลิตมาใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะ ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง สามารถอยู่ในร่างกายได้โดยไม่เป็นอันตรายทำให้เกิดอันตราย จึงถูกนำมาใช้ในการเสริมจมูกมากที่สุด ซึ่งซิลิโคนเสริมจมูกจะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทได้แก่

ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่มีการขึ้นรูปทรงและมีขนาดมาตรฐานอยู่แล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เช่น ทรงตัวแอล ทรงตัวที แต่มีข้อจำกัดในการปรับทรง จึงทำให้ไม่เหมาะกับบางเคส

ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง จะมีลักษณะเป็นแท่งหรือบล็อกสี่เหลี่ยมแผ่นใหญ่ ศัลยแพทย์จะต้องเป็นคนปั้นและเหลาให้ได้ทรงที่เหมาะสมกับรูปจมูกของคนไข้ ซึ่งจะทำให้คนไข้ได้ทรงจมูกที่เป็นเอกลักษณ์ แต่จะต้องอาศัยความชำนาญและความแม่นยำของแพทย์เป็นพิเศษ

2 กระดูกอ่อน

กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆของร่างกาย ก็สามารถนำมาเสริมจมูก หรือใช้รองปลายจมูกที่เสริมด้วยซิลิโคนได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้ได้รูปทรงจมูกที่โด่งเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง และลดการเสียดสีของซิลิโคนกับเนื้อปลายจมูก ป้องกันจมูกทะลุได้ ซึ่งกระดูกอ่อนที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมจมูกมีดังนี้

  • กระดูกอ่อนหลังใบหู เป็นการใช้กระดูกบริเวณส่วนกึ่งกลางใบหู ที่จะมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อยและหนาไม่มาก มาใช้ในการปรับแต่งบริเวณปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกดูหนาขึ้น ยาวขึ้น เหมาะกับคนที่ปลายจมูกสั้น กลัวทะลุในอนาคต
  • กระดูกอ่อนซี่โครง กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นการนำเอากระดูกอ่อนซี่โครงมาตกแต่ง เพื่อใช้เสริมแทนที่โครงสร้างจมูก โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลใต้ราวนม ประมาณ 3-4 เซนติเมตร เพื่อผ่าตัดเลาะเอากระดูกอ่อนบริเวณซี่โครงออกมาใช้ เหมาะกับเคสที่มีกระดูกอ่อนหลังหูไม่เพียงพอ หรือเคยที่จมูกเคยอักเสบ ติดเชื้อมาก่อน
  • เนื้อเยื่อก้นกบ การใช้เนื้อเยื่อก้นกบมารองปลายจมูก จะเพิ่มความละมุน เพิ่มความยาว ปลายพุ่ง ของปลายจมูกได้มากกว่าการใช้กระดูกอ่อนหลังหู เนื่องจากตัวเนื้อเยื่อมีความหนา และมีความยืดหยุ่นที่มากกว่า นอกจากนี้ตัวเนื้อเยื่อยังให้ความเรียบเนียน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย ปลายจมูกบาง จมูกเคยทะลุ หรือติดเชื้อมาก่อน

เทคนิคการเสริมจมูก มีกี่แบบ

ในปัจจุบันเทคนิคเสริมจมูกหลักๆ จะถูกแบ่งออก 3 เทคนิค ซึ่งแต่ละเทคนิคจะมีข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป 

การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

เสริมจมูกแบบเปิด คือการเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยศัลยแพทย์จะทำการกรีดเปิดผิวหนังบริเวณปลายจมูก และแยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก ซึ่งเทคนิคนี้จะทำให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกทั้งหมด จึงทำให้สามารถปรับแก้ไขทุกส่วนของจมูกได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม มีมิติและสัดส่วนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นเทคนิคที่ลดความเสี่ยงปลายจมูกทะลุได้อีกด้วย

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาโครงจสร้างของจมูก เช่น สันจมูกโค้งงอ ปลายจมูกหนา ปลายจมูกงุ้ม จมูกสั้น เอียง หรือจมูกทะลุจากการทำศัลยกรรม

ข้อดี

  • ศัลยแพทย์เห็นโครงสร้างภายในจมูกทั้งหมด จึงสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด 
  • เป็นเทคนิคที่สามารถปรับแต่งรูปทรงจมูกได้กว่าการเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่นๆ 
  • ได้ทรงจมูกที่ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องกังวลในเรื่องของจมูกทะลุในอนาคต 
  • ช่วยลดโอกาสการเบี้ยว และเอียงของซิลิโคน

ข้อจำกัด

  • เป็นเทคนิคที่มีซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนาน และต้องทำโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ
  • มีแผลด้านนอกบริเวณโคนจมูก ทำให้ต้องพักฟื้นนานขึ้น
  • ราคาสูงกว่าเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่นๆ เพราะเป็นการปรับโครงสร้างจมูกภายใน

การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty)

เสริมจมูกแบบปิด คือการเสริมจมูกที่นิยมมานานแล้ว ด้วยวิธีกรีดผ่านด้านในของจมูก จากนั้นเลาะเยื่อบุด้านในโพรงจมูกให้หลุดออกจากกระดูกและกระดูกอ่อน ก่อนทำการเสริมด้วยซิลิโคนบริเวณสันจมูกไปจนถึงปลายจมูกร่วมกับการใช้กระดูกอ่อน เพื่อให้จมูกดูยาว ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น แล้วจึงเย็บปิด ซึ่งการผ่าตัดแบบ Closed รอยแผลจะมีขนาดเล็กมองภายนอกจะไม่เห็นบาดแผล

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานจมูกดีอยู่แล้ว และมีปัญหาเรื่องทรงจมูกไม่มาก เช่น คนที่อยากเพิ่มความโด่งของจมูกเล็กน้อย และคนที่เสริมจมูกครั้งแรก

ข้อดี

  • แผลเล็ก ไม่มีรอยแผลภายนอกให้เห็น ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น
  • เป็นเทคนิคที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน
  • อาการบวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดแบบ Open เพราะไม่ได้ปรับโครงสร้าง จึงใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า
  • ราคาถูกกว่าเสริมจมูกแบบเปิด

ข้อจำกัด

  • มีข้อจำกัดในการแก้ไขโครงสร้างจมูก เนื่องจากไม่เห็นโครงสร้างภายในทั้งหมด
  • ไม่สามารถเสริมซิลิโคน ไม่สามารถเพิ่มความยาวของปลายจมูกได้มาก เพราะอาจทำให้เกิดการทะลุได้
  • ไม่เหมาะกับคนที่แก้จมูกมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาอักเสบ ติดเชื้อ ปลายจมูกบาง

เสริมจมูกแบบ semi open

การเสริมจมูกแบบเซมิโอเพ่น คือเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกที่อยู่ตรงกลางระหว่างการผ่าตัดแบบ Open และ Closed โดยจะทำการกรีดเปิดแผลทั้ง 2 ด้านในรูจมูก เพื่อให้เข้าถึงโครงสร้างจมูกภายในได้ดี จึงสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในจมูกด้านในได้มากขึ้น และศัลยแพทย์สามารถจัดวางตำแหน่งของซิลิโคนได้แม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงเบี้ยว เอียง หลังผ่าตัดได้ดีกว่าการผ่าตัดแบบ Closed

เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานจมูกเดิมค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความสูงของสันจมูก และความโด่งของปลายจมูกให้ดูพุ่งขึ้น หรือคนที่เคยเกิดปัญหาซิลิโคนเอียง และเสี่ยงต่อการทะลุ

ข้อดี 

  • สามารถปรับโครงสร้างของจมูกได้มากกว่า การเสริมจมูกแบบ Closed 
  • ช่วยให้จัดวางตำแหน่งของซิลิโคนได้แม่นยำ ลดโอกาสจมูกเบี้ยว เอียง หลังการเสริมจมูก
  • สามารถเย็บอินเตอร์โดม เพื่อเพิ่มความโด่งพุ่งของปลายจมูกได้
  • ไม่มีรอยแผลภายนอก ไม่ต้องกังวลกับรอยแผลเป็น
  • ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน 

ข้อจำกัด

  • ไม่สามารถปรับแต่งโครงสร้างจมูกได้อย่างเต็มที่ และไม่สามารถปรับรูปทรงของรูจมูกได้เหมือนการเสริมจมูกแบบ Open
  • ไม่สามารถแก้ไขจมูกที่มีฮัมพ์สูงมากๆ ได้

เทคนิคการเสริมของหมอศรัณย์ ที่โรงพยาบาล Wansiri 

ที่ Wansiri เป็นโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเฉพาะทาง โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูกอย่างคุณหมอศรัณย์ เป็นผู้ดูแลและผ่าตัดคนไข้แบบ 1:1  เพื่อให้คุณไข้ได้ผลลัพธ์การผ่าตัดที่ดี คุณหมอจะแนะนำเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุดให้กับคนไข้ ซึ่งเทคนิคที่คุณหมอเลือกใช้ในการผ่าตัดมีดังนี้

  • เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ซึ่งจะสามารถมองเห็นโครงสร้างภายในของจมูกทั้งหมด เพื่อการปรับโครงสร้างและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
  • เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty) ซึ่งคุณหมอศรัณย์จะทำการออกแบบทรงจมูก เหลาซิลิโคน และเลือกใช้กระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกายให้เหมาะสม เพื่อให้คนไข้ได้ทรงจมูกที่สวยเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • เทคนิคเสริมจมูกแบบ Semi Open สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูกไม่มากนัก แต่ต้องการปรับเปลี่ยนทรงได้มากกว่าการเสริมด้วยเทคนิค Closed ซึ่งเทคนิค Semi Open นี้จะช่วยทำให้ปลายจมูกมีความโด่งพุ่ง มากยิ่งขึ้น

เสริมจมูก โรงพยาบาลที่ไหนดี

เสริมจมูกโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง ได้รับการรับรองโดยแพทยสภา

โรงพยาบาล Wansiri เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งแบบครบวงจร และเป็นแหล่งรวมของทีมแพทย์ชั้นนำทางด้านศัลยกรรมที่มีมาตรฐานความปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ที่ Website:checkmd.tmc.or.th โทร. 0 2193 7000 หรือตรวจสอบกับสำนักสถานพยาบาลการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทร. 02-1937000 

แนะนำทีมแพทย์เสริมจมูกโรงพยาบาลวรรณสิริ

การเตรียมตัวก่อนทำจมูกครั้งแรก

  1. หากมีโรคประจำตัว มีอาการแพ้ยา หรือมีอาการเลือดออกง่าย ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
  2. หากมีอาการหวัด หรือแผลติดเชื้อที่จมูก ควรรักษาให้หายก่อนทำการเสริมจมูก
  3. สระผมให้สะอาด เพราะหลัง เสริมจมูกอาจทำให้คนไข้สระผมลำบาก
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก เพราะอาจทำให้หลอดเลือดหดตัว ทำให้แผลหายช้า
  5. งดยาและวิตามินที่มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือด เช่น ยาแก้อักเสบ โดยเฉพาะในกลุ่ม N-SAID เช่น เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), นาพอคเซ็น (Naproxen) ,วิตามินE, วิตามินC อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  6. งดกินอาหารทะเลหรือของหมักดองทุกชนิด เพราะอาจทำให้แผลอักเสบและฟื้นตัวได้ช้า
  7. งดการแต่งหน้าและใส่เครื่องประดับในวันที่เสริมจมูก
  8. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนเสริมจมูก
  9. งดดื่มชา หรือกาแฟ 1 วัน ก่อนวันผ่าตัด  
  10. ในวันผ่าตัดควรใส่เสื้อที่มีกระดุม หรือซิปด้านหน้าเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยน

เสริมจมูกมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ใช้เวลานานไหม?

  1. ปรึกษาแพทย์ แจ้งปัญหา และรูปแบบทรงจมูกที่ต้องการ เพื่อทำการออกแบบร่วมกัน
  2. คนไข้ตรวจร่วงกาย เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมสำหรับการผ่าตัด
  3. ล้างทำความสะอาดผิวหน้า และเปลี่ยนชุดให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด
  4. คนไข้กินยานอนหลับแล้วนอนลงบนเตียง แพทย์จะเริ่มทำการฉีดยาชา (สำหรับการเสริมจมูกแบบ Open จะใช้ยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์)
  5. เริ่มเพื่อทำการผ่าตัด โดยแพทย์จะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่การเหลาซิลิโคน การปรับแต่งโทครสร้าง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับเทคนิคและความยากง่ายของแต่ละเคส)
  6. เย็บปิดแผลผ่าตัด และเข้าเฝือกที่จมูกเพื่อป้องกันการกระแทรก ก่อนนัดมาติดตามผลและตัดไหม หลังการผ่าตัด 5-7 วัน

ข้อควรปฏิบัติหลังเสริมจมูก ที่แพทย์แนะนำ

  • หลังการเสริมจมูกให้ประคบเย็นบริเวณรอบๆ ต่อเนื่อง 3-5 วัน เพื่อให้เลือดหยุดไหล และช่วยลดอาการบวม
  • 1-3 วันแรก นอนหงายให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัว เพื่อป้องกันอาการเลือดคั่งในจมูกจาก นั้นนอนหงายโดยใช้หมอนล็อกคอต่อไปอีก 1 เดือน
  • เช็ดแผลให้สะอาด และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • งดอาหารเผ็ดร้อน อาหารเค็ม อาหารรสจัดอาหารหมักดอง อาหารทะเล หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง รวมถึงงดบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 เดือน
  • ไม่สัมผัสจมูกบ่อยๆ โดยเฉพาะการจับ การบิด การแคะจมูก เพราะจะทำให้ทรงจมูกเบี้ยว เอียงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ 
  • ระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ ควรใช้แผ่นสำลีชุบน้ำเกลือ แทนการล้างหน้า เพราะน้ำอาจทำให้แผลอักเสบ ติดเชื้อได้ (หากแผลโดนน้ำควรรีบซับให้แห้ง)
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เพราะอาจทำให้เกิดการกระทบกระเทือนที่แผลได้
  • ระมัดระวังไม่ให้เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล เพราะการมีน้ำมูกอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

เสริมจมูก ราคาเท่าไหร่?

ราคาการเสริมจมูกมีหลายราคา ขึ้นอยู่กับปัญหาจมูกของคนไข้ เทคนิคการผ่าตัด และวัสดุที่ใช้ ทำให้ราคาเสริมจมูกของคนไข้แต่ละคนไม่เท่ากัน

รีวิวเสริมจมูก เทคนิคต่างๆ ที่โรงพยาบาลวรรณสิริ

Q&A เสริมจมูก

Q: เสริมจมูก อันตรายไหม

A: การเสริมจมูกด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง โดยใช้วัสดุทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ในโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานความปลอดภัย กับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นการทำศัลยกรรมเสริมความงามที่ไม่เป็นอันตราย

Q: เสริมจมูก เจ็บไหม

A: ก่อนการผ่าตัดเสริมจมูก จะมีการฉีดยาชาร่วมกับยานอนหลับหรือวางยาสลบ (ในกรณีที่ผ่าตัดด้วยเทคนิค Open) คนไข้จึงไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ เมื่อยาชาหมดฤทธิ์คนไข้อาจจะรู้สึกระบมและฟกช้ำ เป็นเรื่องปกติ ซึ่งอาการเหล่านั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับใน แนะนำให้พักฟื้น 3-7 วัน 

Q: เสริมจมูกอยู่ได้กี่ปี

A: การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ที่ได้มาตรฐาน มีการเลือกชนิดซิลิโคนที่เหมาะสม หรือกระดูอ่อนต่างๆ จะสามารถอยู่ได้ตลอดอายุการใช้งาน แต่ส่วนใหญ่ที่มีการแก้จมูกมักเกิดจากปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง จมูกทะลุ หรืออยากเปลี่ยนทรงให้เหมาะสมกับรูปหน้ามากขึ้น 

Q: เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้วเสริมจมูกได้หรือไม่

A: กรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์ หรือ Hyaluronic acid แท้ ศัลยแพทย์จะทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ หรือขูดฟิลเลอร์ที่ยังเหลืออยู่ออกแล้วเสริมจมูกได้เลย

Q: เสริมจมูก ในคนที่เนื้อน้อยทำได้ไหม

A: การเสริมจมูกสำหรับคนเนื้อน้อยสามารถทำได้ แต่อาจจะต้องใช้วัสดุรองปลาย หรือเสริมจมูกด้วยเทคนิคOpen เพื่อให้สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูก เช่นการยืดผนังกั้นจมูก เพื่อลดความเสี่ยงจมูกทะเลในอนาคต 

Q: การเสริมจมูกในผู้ชายและผู้หญิง แตกต่างกันไหม?

A: การเสริมจมูกผู้ชายและผู้หญิง มีความแตกต่างกันเพราะโครงสร้างจมูก เช่นกระดูกฐานจมูกผู้ชายส่วนใหญ่จะมีความกว้างกว่าผู้หญิง ผู้ชายจะมีเนื้อจมูกที่หนากว่าเนื้อจมูกผู้หญิง แต่ความยืดหยุ่นน้อยกว่า 

Q: เสริมจมูกไปแล้วไม่ชอบสามารถแก้ไขได้ไหม

A: หากเสริมจมูกไปแล้วไม่ชอบ สามารถแก้ไขได้แต่อาจจะต้องรออย่างน้อยประมาณ 3 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื่อ แผลผ่าตัด รวมถึงเส้นเลือดบริเวณจมูกมีการสมานตัวและหายดีก่อน

สรุป

การเสริมจมูกเป็นทำศัลยกรรมที่มีโรงพยาบาลและคลินิกรับทำเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องเลือกคลินิกอย่างพิถีพิถัน หมอศรัณย์ ที่โรงพยาบาล Wansiri เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์ในการเสริมจมูกมากกว่า 30 ปี ทำให้เข้าใจรายละเอียดของโครงสร้างจมูกเป็นอย่างดี มีการออกแบบอย่างละเอียดเพื่อให้คนไข้ได้ทรงจมูกที่เข้ากับรูปหน้าของตัวเองมากที่สุด และใส่ใจความปลอดภัยให้กับคนไข้ทุกเคส

โรงพยาบาลวรรณสิริ คือโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางด้านความงามในประเทศไทยและเอเชีย ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ผิวพรรณและสุขภาพ เรามุ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสความงามที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง!

หากท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Wansiri ยินดีให้คำปรึกษาฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สอบถามเข้ามาได้ทาง Facebook หรือ Line ได้เลย